"พริกไทย" (Pepper) เป็นสมุนไพรที่มีติดครัวกันแทบทุกบ้าน มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน และวิตามินซี พริกไทย พริกไทยเป็นสมุนไพรประเภทรสเผ็ดร้อน การแพทย์แผนไทยจึงจัดไว้ในพิกัดที่เรียกว่า ตรีกฏก ประกอบด้วย เหง้าขิงแห้ง เมล็ดพริกไทย และผลดีปลี มีสรรพคุณแก้โรคในฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งพิกัดคือ ตรีวาตผล มีสรรพคุณแก้ลม ประกอบด้วย ลูกสะค้าน เหง้าข่า และรากพริกไทย ใช้แก้ในกองลม แก้แน่นในทรวงอก แก้เสมหะ แก้เลือด บำรุงไฟธาตุ ด้านสรรพคุณของพริกไทยนั้นใช้ได้ตั้งแต่ต้นจนกระทั้งราก อาทิ เถาพริกไทย ใช้แก้เสมหะ และอาการท้องร่วงขั้นรุนแรง ใบ ใช้แก้ลมจุกเสียด แก้ปวดมวนท้อง ดอก แก้ตาแดงเนื่องจากความดันโลหิตสูง เมล็ด ใช้เป็นยาช่วยย่อยอาหาร ย่อยสารพิษตกค้างที่ไม่สามารถย่อยได้ ขับเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ท้องอืด ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ ในเมล็ดพริกไทยมีสารไพเพอรีน(Piperine) และสารฟินอลิกส์(Phenolics) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็ง มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท และแก้โรคลมชักหรือลมบ้าหมูได้ ราก ใช้ขับลมในลำไส้ แก้ปวดท้อง วิงเวียน น้ำมันในพริกไทย ยังช่วยลดน้ำหนัก โดยใช้นวดลดน้ำหนักเฉพาะส่วนได้ด้วย