สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้
สาระน่ารู้ “เรื่องของยา”

ความเจ็บไข้ได้ป่วยไม่ใช่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อาการผิดปกติบางอย่างที่ร่างกายแสดงออกมาอาจหมายถึง โรคภัยไข้เจ็บที่รุนแรงก็ได้ ดังนั้นการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้องโดยแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันอีกประการหนึ่งก็คือ การใช้ยารักษาโรคอย่างถูกต้อง เนื่องจากยานั้นแตกต่างจากอาหาร ดังนั้นก่อนใช้ยาผู้ใช้จึงต้องทราบถึงสาเหตุและอาการของตนก่อน เพื่อที่จะได้เลือกใช้ยาได้ถูกโรค ถูกขนาด ถูกเวลา และถูกวิธี
ข้อควรคำนึงในการรับประทานยา
1. ยาก่อนอาหาร ควรรับประทานก่อนอาหารประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
2. ยาหลังอาหาร ควรรับประทานหลังอาหารประมาณ 15-30 นาที แต่ถ้าเป็นยาที่ระบุว่าต้องรับประทานหลังอาหารทันที ต้องรับประทานพร้อมอาหารนั้น ไม่ควรรับประทานยานี้ในขณะที่ท้องว่าง เพราะส่วนใหญ่จะเป็นยาที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุกระเพาะ และถ้าเป็นยาลดกรดควรรับประทานก่อนอาหาร หรือหลังอาหาร 30 นาที – 1 ชั่วโมง
3. ยาเม็ดหรือยาแคปซูล ควรกลืนทั้งเม็ดพร้อมน้ำ ส่วนที่ระบุว่าเคี้ยวก่อนกลืน ก็ต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อน
4. ยาน้ำ ควรเขย่าขวดก่อนรับประทานทุกครั้ง เพื่อให้ตัวยากระจายทั่วทั้งขวด
5. ยาผงที่ต้องละลายน้ำก่อนรับประทาน เช่น ยาขับเสมหะ ห้ามรับประทานแห้งแล้วค่อยดื่มน้ำตาม เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินอาหารได้
6. อย่าละเลยคำเตือนที่ระบุมากับยา เช่น ยาบางชนิดต้องรับประทานต่อเนื่องทุกวันจนหมด ยาบางชนิดต้องรับประทานน้ำตามมากๆ เพราะยาอาจตกตะกอนที่ไตทำให้เกิดนิ่วบางชนิด
7. ไม่ควรรับประทานเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีแอลกฮอล์ผสมอยู่ เพราะแอลกอฮอล์มักมีผลต่อการดูดซึมยาเสมอ
8. ยาที่ใช้เฉพาะที่ เช่น ยาเหน็บที่สอดทางทวารหนัก หรือสอดทางช่องคลอด ควรนำยาไปจุ่มน้ำสะอาดก่อนใช้ เพื่อให้เม็ดยาลื่น ซึ่งจะสะดวกแก่การสอดใส่ และหลังจากสอดแล้วควรนอนพักอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อให้ยาละลายและดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย สำหรับยาที่สอดเข้าทวารหนักนั้น ควรเก็บไว้ในตู้เย็น เพื่อเป็นการป้องกันยาหลอมตัว และช่วยให้ยามีความแข็งพอที่จะสอดได้
ถึงแม้ว่ายาจะมีคุณอนันต์ แต่ถ้าหากใช้อย่างผิดวิธี ยานั้นก็อาจกลายเป็นโทษมหันต์ได้ ดังนั้นการรู้จักใช้ยาอย่างถูกต้องจึงเป็นการช่วยขจัดและบำบัดโรคภัยต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ทางที่ดีควรอ่านฉลากยาก่อนใช้ทุกครั้งนะคะ