สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้

ดื่มอย่างไร ไม่ทำร้ายฟัน

ย่างเข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ หลายคนมักเพลิดเพลินกับการดื่มฉลองกันอย่างสนุกสนาน แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่หากรวมกับพฤติกรรมการดื่มในรอบปีที่ผ่านมาด้วยแล้ว อาจสะสมจนกลายเป็นปัญหาโรคเหงือกและฟันตามมาได้ค่ะ ปัญหาสุขภาพฟันไม่ว่าจะเป็นฟันผุ ฟันสึกกร่อน และอาการเสียวฟัน สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งมาจากการบริโภคเครื่องดื่มค่ะ โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกรด มีฟองซ่า เช่น น้ำอัดลม หรือโซดา เครื่องดื่มที่มีคาร์บอเนตอย่างเบียร์ ไวน์ และอีกชนิดที่เป็นตัวฉกาจในการทำร้ายฟันเลยก็คือ เครื่องดื่มชูกำลังและเครื่องดื่มประเภท sport drink หรือน้ำเกลือแร่ที่นักกีฬาชอบดื่มกัน เพราะในเครื่องดื่มดังกล่าวจะมีความเป็นกรดและมีค่า pH ต่ำ ซึ่งมีผลทำให้ผิวเคลือบฟันละลายและนิ่มลงชั่วขณะ หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะกลับสู่ปกติ แต่ขณะที่เคลือบฟันนิ่มหากเราแปรงฟันหรือเคี้ยวอาหารแข็งๆ เคลือบฟันก็จะหลุดหรือสึกกร่อนได้ง่ายๆ และเมื่อผิวเคลือบฟันบางลงจนถึงชั้นเนื้อฟัน ความเสียวซ่านของอาการเสียวฟันก็จะตามมา เป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าหากยังละเลย ไม่รีบดูแล คุณอาจเป็นโรคเหงือก หรือสูญเสียฟันได้ในที่สุดค่ะ แต่หากบังเอิญเจ้าวายร้ายคือเครื่องดื่มสุดโปรด หรืออยากดื่มในโอกาสพิเศษแล้วล่ะก็ เราก็มีตัวช่วยเป็นเทคนิคการดื่มแบบง่ายๆ คือการใช้หลอดดูดเพื่อให้น้ำดื่มผ่านเข้าสู่คอเลย ไม่อมน้ำดื่มไว้ในปากนานๆ และหลังดื่มให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าหลายๆ ครั้งทันที ที่สำคัญห้ามแปรงฟันทันที ควรทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง และเวลาแปรงฟันควรให้ยาสีฟันสัมผัสผิวฟันประมาณ 2 นาที เพื่อช่วยป้องกันฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเลือกใช้ยาสีฟันที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงอย่าง ยาสีฟันผสมสมุนไพร ดร.สาโรช ซึ่งจะช่วยบำรุงรักษาฟัน และลดอาการเสียวฟัน พร้อมเสริมเคลือบฟันเพื่อทดแทนแร่ธาตุที่ละลายไป ช่วยให้ผิวเคลือบฟันแข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้สารสกัดในสมุนไพรยังช่วยระงับกลิ่นปาก และลดปัญหาเลือดออกตามไรฟันและเหงือกอักเสบได้ดีอีกด้วยค่ะ หันมาใส่ใจดูแลฟันหลังการดื่มสักนิด คุณก็ดื่มได้อย่างสนุก ฟ.ฟัน ก็มีสุขภาพที่ดีด้วยค่ะ